สต รั ท tein

สต รั ท tein

สต รั ท tein โช๊คอัพ โช๊ครถยนต์ โช๊ครถปิคอัพ โช๊ครถเก๋งตรวจเช็คบ่อยครั้งระบบตอนล่างทำงานหนักล้นหลามๆเมื่อเทียบกับส่วนอื่นๆทั้งรองรับแรงชนแรงสั่นจากหลุม บ่อ คอสะพาน บนถนน ช่วยปรับการขับขี่นุ่มนวลรวมทั้งช่วยทำให้เราควบคุมรถยนต์ได้อย่างมั่นอกมั่นใจ

สต รั ท tein

แบบงั้นพวกเรามาตรวจสอบรถยนต์ของพวกเรากันนิดหน่อยว่ายังใช้งานเจริญอยู่ไหม ?

1.ตรวจสอบการคืนตัวเราสามารถใคร่ครวญการคืนตัวของรถยนต์ได้อย่างง่ายดาย profender queen series ราคา แค่เพียงใช้มือกดรถยนต์บริเวณมุมที่อยากได้ทดลอง ออกแรงกดสัก 5 ครั้ง เพื่อมองการคืนตัวของรถ หากการคืนตัวที่ค่อนข้างจะไวมีความหมายว่ายังปกติอยู่

2.ตรวจสอบรอยรั่วดูรอยรั่วของน้ำมันรอบๆข้อต่อต่างๆหากว่าเจอรอยเปื้อนน้ำมันไหลออกมาจากกระบอก ก็ได้โอกาสที่กระบอกจะรั่วได้ ซึ่งทำให้คุณภาพการทำงานนั้น น้อยลงไปเพราะว่าน้ำมันที่ช่วยสร้างความนุ่มนวลพร่องไปจากเดิม

3.พินิจรูปทรงแน่นอนว่าโดยทั่วไปจะเป็นทรงกระบอกแบบสมมาตร ถึงแม้ถ้าเกิดดูด้วยตาเปล่าแล้วผิดเพี้ยนไป ก็ไม่ต้องสงสัยขอรับบางทีก็อาจจะตกหลุมใหญ่ๆมา หรือได้รับแรงชนหนักๆกระทั่งผิดรูปทรง การเปลี่ยนใหม่บางทีอาจจะเป็นแนวทางแรกๆของปัญหานี้ครับ

4.ดอกยางที่ล้อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งสึกเปลี่ยนไปจากปกติลองเช็คหน้ายางที่รถยนต์ของคุณขอรับ ว่าดอกยางด้านไหนมีลักษณะสึกแตกต่างจากปกติไหม! ถ้าเกิดสังเกตุพบร่องรอยการสึกที่ไม่สม่ำเสมอจากล้อข้างที่สงสัย อาจมีความหมายว่า ข้างนั้นๆของคุณน่าจะมีปัญหา

5.รู้สึกแปลกๆขณะออกสตาร์ท-เบรคทดสอบพิจารณาเมื่อออกสตาร์ทและก็เบรคตอนที่กำลังขับขี่ด้วยความเร็วปกติ ถ้าพบว่าในห้องโดยสารมีการสั่นมากยิ่งกว่าปกติ เวลาขับขี่รถขึ้นเนินหรือลูกระนาดจะพบว่ามีการกระเด้งขึ้น-ลง กระทั่งรู้สึกได้ว่าไม่นิ่มนวลอย่างที่ควรเป็น ให้รีบตรวจทานโดยทันทีครับผม

6.รถยนต์มีลักษณะบิน-ร่อนขณะขับรถยนต์ด้วยความเร็ว คิดว่ารถยนต์มีลักษณะอาการเหาะน่าจะเป็นที่ โช๊คอัพ รถยนต์ บางตัวมีการพังตราบจนกระทั่งไม่อาจควบคุมสมดุลของรถได้ราวกับตัวอื่นๆด้วยเหตุดังกล่าวเพื่อให้มีความปลอดภัย ให้รีบนำรถไปตรวจเช็คที่ศูนย์หรืออู่จะยอดเยี่ยมเมื่อรู้แบบงี้แล้ว รีบไปตรวจเช็ครถยนต์ของพวกเรากันสักหน่อย เหตุเพราะระบบช่วงล่างเป็นจุดที่จำต้องรับแรงชนจากข้างล่าง รวมถึงด้านบนอยู่ตลอดเวลา ถ้าหากตรวจพบความไม่ปกติควรจะรีบไปเข้าศูนย์บริการ หรืออู่ในทันที เนื่องจากว่าไม่ใช่แค่เรื่องความนิ่มนวลสำหรับการขับรถ ยังเป็นเรื่องไม่เป็นอันตรายของตัวคุณเองด้วย

โช๊คอัพ รถยนต์ มีกี่แบบ , เลือกยังไง , เช็คยังไงว่าเสีย , ซ่อมหรือแปลงดี…?สวัสดีท่านผู้ครอบครองรถยนต์ทุกคนขอรับ วันนี้ “Milework” จะมาเคลียปริศนาให้ได้ทราบกัน บอกได้ว่าเมื่ออ่านบทความนี้จบแล้ว “คุณจำต้องอยากได้รีบกลับไปเช็ครถของคุณเลยที่เดียว”ว่ากันประเด็นการใช้รถยนต์ในทุกวี่ทุกวัน พวกเราๆท่านๆชอบดูแลรถยนต์แค่เพียงการไป ล้าง อัด ฉีดในวันหยุดเพียงเท่านั้น บางเวลาไม่ให้ความสนใจระบบต่างๆที่สำคัญนั่นเป็น ระบบช่วงล่าง ที่นอกจากจะช่วยเรื่องความละมุนละไมแล้ว ท่านทราบหรือเปล่าครับ? อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบนถนนหนทางหลายครั้ง

เป็นเนื่องด้วยระบบช่วงล่างของรถยนต์มีปัญหา เพราะฉะนั้นอีกสาระสำคัญหนึ่งก็คือ “ยึดรถกับผิวถนนแล้วหลังจากนั้นก็ช่วยประเด็นการทรงตัวของรถยนต์” นั่นเองโดยปกติอาจจะมีหลายหมวดหมู่ แต่ว่ารูปแบบการทำงานไม่มีความแตกต่างกันนัก ซึ่งรูปแบบการทำงานในเวลานี้ มีอยู่ 2 จังหวะเป็นจังหวะยืด รวมทั้ง จังหวะยุบ พูดง่ายๆว่า ในขณะขับขี่ตอนล่างจะรอคอยทุ่นกำลังขณะยุบรวมทั้งยืดตัวอยู่ตลอดเวลา ช่วยคุ้มครองปกป้องไม่ให้ขณะเบรคเฉียบพลันแล้วหน้ารถยนต์ทิ่มแทงลง

(SHOCK ABSORBERS) มีบทบาทโดยพื้นฐานเป็น เป็นตัวควบคุมการยุบตัว แล้วก็การยืดตัวของสปริง (COIL SPRING) แหนบ (LEAF SPRING) รวมถึงสปริงแบบแท่ง (TORTION BAR) ถ้าไม่มีโช้คอัพรถจะเต้นไม่หยุด โช้คอัพ เป็นเครื่องใช้ไม้สอยที่มีความหมายชนิดหนึ่งในระบบรองรับของรถยนต์ เพื่อลดแรงชน ที่เกิดขึ้นมาจากผิวของหนทางที่ไม่เรียบ ซึ่งโดยมีบทบาทรากฐานคือ เป็นเครื่องมือที่รอควบคุม แนวทางการทำงานของสปริงหรือแหนบ โดยเมื่อรถยนต์ได้รับแรงกระแทก เพราะว่าภาวะหนทาง โช้คอัพจะเป็นตัวถ่วง การเคลื่อนที่ขึ้นและลงของตัวรถยนต์ เพื่อรถยนต์ได้รับแรงกระเทือนน้อยที่สุด

รวมทั้งควบคุมล้อให้สัมผัสกับผิวของถนนหนทางขณะรถยนต์วิ่งกรรมวิธีตรวจตราสภาพของโช้คอัพนั้น ผู้ใช้รถยนต์สามารถตรวจตราได้ดังต่อไปนี้ ให้สังเกตุที่หน้ายางของรถยนต์ ถ้าโช้คอัพอับอายยางจะสึกเป็นช่วงๆรอบๆให้ใช้มือกดบริเวณด้านบนของบังโคลนอีกทั้งหน้าและก็ด้านหลังหลายๆครั้ง แล้วปล่อยมือรอบๆที่กด ก็จะมีอาการยืดรวมถึงหด ถ้าเกิดมีลักษณะกระเด้งหลายๆครั้ง มีความหมายว่าโช้คอัพนั้นชำรุดทรุดโทรม ขณะที่ขับรถผ่านทางที่ขรุขระหรือทางที่เป็นทางลูกระนาด รถยนต์จะมีลักษณะอาการโยนตัวต้นเหตุมาจากสปริง หรือแหนบจะยืดแล้วก็หดตัวเป็นอย่างมาก

ตราบจนกระทั่งยางป้องกันการเกิดการกระแทก จะชนกับปีกนกตัวบนอยู่เสมอเวลา หมายความว่าตอนนี้โช้คอัพไม่มีแรงที่ จะหน่วงการเคลื่อนที่ของสปริงหรือแหนบเพียงพอแล้ว ให้สังเกตุเวลาขับขี่รถจะมีความคิดว่าควบคุมรถยนต์ได้ยากเยอะแยะ ซึ่งก็นับได้ว่า โช้คอัพไม่สามารถควบคุมการดีดตัวของสปริง หรือแหนบได้ ล้อจะเต้นจวบจนกระทั่งหน้าสัมผัสของยางลอย จากผิวของถนนหนทาง อาการอย่างนี้จะก่อให้เกิดอันตรายเป็นอย่างมาก ในขณะขับขี่รถเข้าทางโค้งด้วยความเร็วสูง จะมีผลให้รถยนต์เสียการทรงตัวได้ ให้สังเกตุว่าโช้คอัพมีรอยเปื้อนน้ำมันไหลออกมาไหม

หากว่ายังไม่แน่ใจให้ใช้ผ้าขัดแล้วทดลองตรวจสอบมองอีกรอบเนื่องจากว่ารอยเปื้อนน้ำมันนี้อาจจะมาจากสารหล่อลื่น แกนของโช้คอัพก็เป็นไปได้ ถ้าเกิดเช็ดแล้วมีรอยเปื้อนน้ำมันอีกก็แสดงว่าโช้คอัพเสียให้ถอดโช้คอัเพียงพออกมาแล้วดึง ทดลองความหนืด โดยถอดจุดยึดด้านล่างของโช้คอัเพียงพออกแล้วออกแรงดึง การวิเคราะห์โช้คอัพลักษณะนี้ ควรจะตั้งตัวโช้คอัพให้ตั้งฉากกับพื้น แล้วคอยสังเกตุความหนืดของโช้คอัพมีกี่แบบพวกเราอาจเคยทราบ แบบเดิมๆกับ แบบแต่ง ก็อาจมีปัญหาสำหรับผู้ที่ใช้รถยนต์ธรรมดาอย่างเราๆว่ามีด้วยหรือ? แล้วที่ว่าแบบเดิมกับแต่ง ต่างกันอย่างไร? แล้วจำต้องแปลงไหม ? ก็จะบอกแบบนี้ครับผมว่าบางครั้งก็อาจจะไม่มีความจำเป็นในเรื่องที่ท่านขับขี่รถบนถนนในเมืองซึ่งแบบแต่งนั้นจะนิยมในกลุ่มนักแต่งรถยนต์ หรือนักแข่งสายซิ่งที่อยากเพิ่มความ สามารถของรถในการขับขี่รถ

การยึดเกาะถนนหนทาง อย่างนั้นมาดูกันว่าของเดิมๆมีกี่แบบ

1. ชนิดกระบอกผู้เดียว (Mono Tube)รูปแบบของกระบอก จะเป็นชิ้นเดียวตามชื่อ แต่แบบผู้เดียวนี้จำเป็นมากที่จำเป็นต้องใช้ข้าวของที่มีความแข็งแรง-ทนสูง สามารถรับแรงชนได้เป็นอย่างดี ถ้าตัวกระบอกไม่แข็งแรงพอเพียง แน่นอนว่าจะมีปัญหาสำหรับในการรับแรงจากรถยนต์ทั้งคันรวมทั้งแรงจากพื้นตอนที่กำลังขับขี่ อาจจะก่อให้กระบอกเบี้ยวผิดรูปร่าง แต่ว่าแค่เพียงทนทานอย่างเดียวก็คงจะไม่พอ เครื่องไม้เครื่องมือที่ใช้ผลิตยังควรมีน้ำหนักเบาอีกด้วย ก็เลยเป็นที่นิยมในกลุ่มนักซิ่ง นักแต่งรถยนต์ จึงทำให้แพงแพงกว่าแบบอื่น

2. จำพวกกระบอกคู่ (Twin Tube)เป็นแบบที่ใช้งานกันอยู่ทั่วๆไป ที่เรียกว่ากระบอกคู่ ก็เพราะเหตุว่าภายในเป็นกระบอกสองชั้น (มีการจัดการของกระบอกที่สลับซับซ้อนกว่าแบบ Mono Tube พอเหมาะพอควร) กระบอกภายในทำหน้าที่เป็น “กระบอกสูบ” ซึ่งมีน้ำมันที่ออกแบบมาเป็นพิเศษใส่เอาไว้ภายใน ส่วนช่องว่างข้างนอก จะเป็น “ช่องสำรองน้ำมัน” แบ่งเป็นอีก 2 แบบหมายคือแบบน้ำมันสิ่งเดียวเรียก “จำพวกกระบอกคู่-แบบน้ำมัน” จะมีน้ำมันใส่ราวๆ2 ใน 3 ที่เหลือจะเป็นอากาศการที่บรรจุน้ำมันในจำนวนที่มากช่วยในประเด็นการเคลื่อนไหวที่นุ่มนวล อีกประเภทที่ได้รับความนิยมในตอนนี้เป็น พวกกระบอกคู่-แบบแก๊ส” ก็จะใส่ “แก๊ส” ไว้ในช่องน้ำมันสำรองนี้ด้วย โดย”ก๊าซ”นี้จะช่วยสำหรับการตอบโต้ที่เร็วทันใจทั้งการคืนตัวเร็ว-ยุบช้า แต่จะมีความแข็งมากกว่าแบบน้ำมัน (ก๊าซมุมานะดันสู้ตลอดเวลา) ก็ได้ประเด็นการเกาะหนทางที่ดี ลดอาการโคลงตัวแต่ความนุ่มนวลก็จะลดลงกว่าแบบน้ำมันสรุปลักษณะเด่นของ ชนิดกระบอกคู่เป็นเงินลงทุนการผลิตถูกกว่า ตัวอุปกรณ์ไม่จำเป็นที่ต้องทนราวกับ จำพวกกระบอกโดดเดี่ยว ด้วยเหตุว่ากระบอกสูบจริงๆนั้นอยู่ภายใน ข้างนอกเป็นช่องน้ำมันสำรอง ก็เลยไม่ค่อยมีปัญหาในเรื่องความแข็งแรง ทำให้ราคาไม่สูงมาก จึงได้รับความนิยมรวมทั้งใช้กันอยู่ปกติแถมสำหรับคนที่พึงพอใจ

โช๊คอัพ รถยนต์ แบบแต่ง จะแบ่งเป็น 3 แบบ

1.จำพวกปรับความสูงมิได้ลักษณะราวกับของเดิมๆที่ติดมาพร้อมกับรถยนต์ ก็แค่มีการปรับปรุงให้มีความรู้และความเข้าใจที่สูงขึ้น หนึบแน่นยึดเกาะพื้นถนนเจริญขึ้น ซึ่งสังเกตว่าจะไม่สามารถที่จะปรับความสูงได้ เบ้าสปริงจะมีขนาดใหญ่เท่าของเดิมที่สร้างขึ้นจากโรงงาน เหมาะกับคนที่ชอบพอความหนึบโดยเฉพาะอย่างยิ่ง แล้วก็พึงพอใจกับระดับความสูงจากพื้นของตัวรถ ไม่อยากที่จะให้โหลดหรือยกสูงมากมายก่ายกองไป

2.ประเภทสตรัทปรับเกลียวเป็นที่นิยมพอเหมาะ รอบๆเบ้าสปริงสามารถปรับให้สูง-ต่ำได้ดังที่เจ้าของรถยนต์ถูกใจ มีสปริงทรงกระบอก เรียกว่า สปริงหลอด ที่ปรับความแข็งแรงหรือเรียกว่า “ค่า K.” ได้ ส่วนขนาดก็มีนานาประการให้เลือก ซึ่งจะมองเห็นได้ว่าพัฒนามาจากแบบแรกนั่นเอง ได้รับความนิยมเยอะที่สุดในวงการมอเตอร์สปอร์ตบ้านเรา

3. จำพวกสตรัทปรับเกลียว-แบบสไลด์กระบอกแบบสไลด์กระบอก สามารถปรับความสูงที่ตัวกระบอกได้เลย ไม่ต้องไปยุ่งยากปรับที่เบ้าสปริงแล้ว ช่วยไขปัญหาหัวข้อการปรับความสูง แม้กระนั้นการปรับให้สมรรถณะการทำงานโดยรวมออกมาดีนั้นเป็นเรื่องที่ท้าพอเหมาะพอควร นักซิ่งที่ใช้รถยนต์สำหรับในการแข่งขันอยากได้ความรู้ความเข้าใจสูงๆทำให้อายุการใช้งานของรถยนต์สั้นลง การปรับความสูงของสปริงก็จะยากขึ้นตามสภาพของรถสรุปของแต่ง มีคุณประโยชน์ยังไงดูแล้วถ้าเราๆท่านๆขับในเมืองธรรมดา คงไม่จำเป็นที่ต้องไปเปลี่ยนแปลงของเดิมๆจะแปลงอีกครั้งก็เปลี่ยนแปลงตามภาวการณ์ของอะไหล่ที่หมดอายุใช้งานแล้ว ดูจะเป็นตัวเลือกที่ดีมากกว่า ส่วนนักแข่งขัน สายซิ่ง ที่ควรต้องเพิ่มสมรรถนะให้รถยนต์ก็เห็นจะหลบลี้มิได้ แต่ข้อระวังบางทีอาจเกิดเรื่อง “การโหลดรถยนต์โดย “ตัดสปริง” ที่จะต้องใช้ช่างมีฝีมือสำหรับการทำแล้วก็ตรวจเช็คอย่างประณีตก่อนใช้จริง เพราะเหตุว่าสบโอกาสที่กระบอกสูบจะหักได้ในตอนที่ใช้งาน

โช๊คอัพ รถยนต์ โช๊ค โช๊คอัพ โช๊ครถยนต์ โช๊ครถปิคอัพ โช๊ครถเก๋งอายุการใช้งานอะไหล่รถยนต์ ทุกองค์ประกอบก็แก่การใช้แรงงานของมัน ทั้งนี้สังกัดต้นเหตุต่างๆที่จะทำให้อายุของอะไหล่สั้นลง อาทิเช่น สภาวะถนนหนทาง , ลักษณะการขับขี่ , น้ำหนักบรรทุก , การตรวจเช็คภาวการณ์รถยนต์ถ้ากล่าวถึงอายุการใช้งานของ
โดยทั่วไปส่วนมากจะอยู่ที่ประมาณ 3 ปี ถ้าเกิดคิดเป็นปริมาณกม.ก็อยู่ระหว่าง 60,000 – 100,000 ข้อบังคับ หากแม้นี่เป็นแค่เพียงการคาดคะเนอายุการใช้งานเพียงแค่คร่าวๆเพียงแค่นั้น ส่วนปัจจัยหลักๆก็อย่างที่บอกนะครับ

จำเป็นจะต้องขึ้นอยู่กับการใช้แรงงานของรถด้วย หากปกติรถใหม่ ใช้งานที่ 25,000 ข้อบังคับ แล้วเราจำต้องนำรถยนต์เข้าไปเช็คที่ศูนย์บริการสักนิดสักหน่อยว่า ระบบช่วงล่างยังรับแรงชน ช่วยลดแรงสะเทือนของตัวรถยนต์ขณะรถยนต์วิ่งและก็ช่วยให้รถยนต์เกาะถนนขณะเข้าโค้งได้ดิบได้ดีอยู่ไหมอาการทรุดโทรมกล่าวถึงอาการเสื่อมโทรมกันบ้าง เมื่อรถของคุณผ่านการใช้แรงงานมาเป็นระยะเวลาที่ยาวนานพอสมควร ขณะขับขี่ผ่านผิวรอยต่อถนนหรือขึ้นเนินหลังเต่า

จะรู้สึกได้ถึงแรงชน ที่มากไม่ดีเหมือนปกติ หรือขณะขับรถยนต์ ขึ้นสะพานจะรู้สึกแปลกๆ ว่ารถมีลักษณะ อาการกระโดด ขับลงทางชันจะมี ลักษณะอาการกระดอน ตอนที่กำลังขับรถยนต์ผ่านผิวที่เป็นแอ่งกระทะ ความเร็วราวๆ70-80 กฎหมาย/ช.ม. จะมีความรู้สึกได้ว่ารถยนต์มีลักษณะบินเล็กหน่อย จากอาการข้างต้นนี้ สามารถบอกได้ว่าคุณควรเช็คสภาพหรือเปลี่ยน โช๊คอัพ รถยนต์ ใหม่ได้เเล้ว

กลับหน้าหลัก

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *